Login

Register

Login

Register

Login

Register

Dimension Scanner Solution ระบบสแกนบาร์โค้ดอัตโนมัติพร้อมวัดขนาดกล่อง

barcode dimension scanner solution

Dimension Scanner Solution ระบบสแกนบาร์โค้ดอัตโนมัติพร้อมวัดขนาดกล่อง

เทคโนโลยีแห่งอนาคตของธุรกิจ #Logistics #Warehousing #Manufacturing #DimensionalScanner #Retail อยู่ที่นี่แล้ว! โซลูชั่นใหม่จากกระแส eCommerce ที่กำลังเติบโต เริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก ทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ จนได้เครื่องที่รองรับการทำงาน หลากหลายงานภายในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นงานสแกนบาร์โค้ด, ชั่งน้ำหนัก หรือ วัดปริมาตรของกล่องพัสดุ ช่วยให้ธุรกิจของคุณ รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยลง มากกว่าที่เคย เพิ่้มประสบกาณ์ใหม่ให้กับลูกค้าของคุณ ในแบบที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทดลองใช้งานได้ผ่านทางข้อความ Facebook Inbox http://m.me/OGAGroup ของเราได้เลย หรือทางไลน์ที่ @OGAGroup

เทคโนโลยีบาร์โค้ดใหม่แห่งอนาคต

นี่คือเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนการใช้งานบาร์โค้ดแบบเดิม ๆ ที่เราใช้งานกันมายาวนานจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะพับธุรกิจคลังสินค้า (Warehouse) ขนส่ง (Logistics) และโรงงานผลิต (Manufacturing) เพราะเทคโนโลยีตัวนี้จะทำการสแกนบาร์โค้ดพร้อมแนบข้อมูลน้ำหนัก และขนาดของกล่องลงไปด้วย โดยไม่ต้องใช้คนมาคอยนั่งวัดที่จะอย่าง ทุกอย่างสามารถทำได้ในขั้นตอนเดียวเท่านั้น สะดวกและรวดเร็วสุด ๆ นอกจากนั้นยังมีระบบสแกนบาร์โค้ดบนสายพาน ที่สามารถอ่านบาร์โค้ดจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่อง บนทุกกล่องสินค้าที่วิ่งผ่านไปบนสายพาน ทำให้ไม่เกิดการหยุดชะงัก หรือสะดุด ในขั้นตอนการยิงบาร์โค้ดเก็บข้อมูลเลย

เปลี่ยนความเร็วของธุรกิจให้เร็วกว่าเดิม ด้วยบาร์โค้ดอย่างที่เคยใช้ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร

ตัวระบบจะเข้ามาเติมช่องว่างในขั้นตอนการทำงานเดิม ๆ ที่มีอยู่ได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องจัดวางอะไรใหม่ให้ยุ่งยาก บาร์โค้ดเดิม ๆ ที่ใช้งานอยู่สามารถทำงานร่วมกันได้ นี่จึงเป็นระบบที่รับประกันว่าสะดวกมากในการนำไปใช้งาน และจะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของคุณ ให้ดี สะดวก รวดเร็ว กว่าที่เคยอย่างแน่นอน

ความแตกต่าง Barcode, QR Code และ RFID

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น การใช้งานระบบระบุและติดตามข้อมูลต่าง ๆ ก็ยิ่งมีความสำคัญและแพร่หลายออกไป เทคโนโลยีที่นิยมใช้ในการระบุและติดตามข้อมูลที่พบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ Barcode, QR Code, และ RFID ทั้งสามเทคโนโลยีนี้มีคุณสมบัติและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างทั้งสามเทคโนโลยี 1. Barcode (บาร์โค้ด) บาร์โค้ดเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้มานานและแพร่หลายที่สุด โดยทั่วไปจะเป็นเส้นคู่ขนานสีดำและขาว ที่มีการเรียงรหัสข้อมูลตามรูปแบบเส้นเพื่อบ่งบอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น หมายเลขสินค้า วันผลิต หรือราคาสินค้า ข้อมูลในบาร์โค้ดสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องสแกนบาร์โค้ด ซึ่งมีการใช้งานในหลากหลายธุรกิจ เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และคลังสินค้า   ข้อดี ● ราคาถูกและหาได้ง่าย ● ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในงานที่ต้องการความเร็วในการอ่านข้อมูล ข้อเสีย ● มีความจุข้อมูลจำกัด ● ต้องใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดในการอ่านข้อมูล 2. QR Code (คิวอาร์โค้ด) QR Code เป็นการพัฒนามาจากบาร์โค้ดที่เพิ่มความสามารถในการเก็บข้อมูลที่มากขึ้นและซับซ้อนกว่า QR Code มีรูปแบบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีจุดและลวดลายต่าง ๆ ที่สามารถอ่านได้จากทุกทิศทาง ทำให้มีการใช้งานที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลที่มากกว่าบาร์โค้ด   […]

บาร์โค้ด 1D กับ 2D แตกต่างกันอย่างไร

บาร์โค้ดเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการระบุข้อมูลและติดตามผลิตภัณฑ์โดยการสแกน บาร์โค้ดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ บาร์โค้ดแบบ 1D (One-Dimensional) และบาร์โค้ดแบบ 2D (Two-Dimensional) บาร์โค้ดทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของรูปแบบและการใช้งาน . . ▶ บาร์โค้ดแบบ 1D (One-Dimensional Barcode) . . ลักษณะ บาร์โค้ดแบบ 1D เป็นบาร์โค้ดที่มีลักษณะเป็นแถบเส้นที่เรียงตัวกันในแนวเดียว (แนวนอน) เส้นเหล่านี้ประกอบไปด้วยเส้นสีดำและช่องว่างสีขาวที่มีความกว้างและขนาดแตกต่างกัน ข้อมูลที่เก็บอยู่ในบาร์โค้ดแบบ 1D จะอยู่ในรูปแบบของตัวเลขหรือตัวอักษร ซึ่งอ่านได้โดยการสแกนจากซ้ายไปขวา สามารถเก็บข้อมูลได้จำกัด ประมาณ 20–25 อักขระ การใช้งาน ● สินค้าทั่วไปในร้านค้า : ใช้ในการสแกนและระบุสินค้าที่แคชเชียร์ ● การจัดการคลังสินค้า : ใช้ในการติดตามสินค้าและการตรวจนับสินค้าในคลัง ● อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ : ใช้ในการติดตามพัสดุและการขนส่งสินค้า . . ▶ บาร์โค้ดแบบ 2D (Two-Dimensional Barcode) . . […]

8 ประโยชน์ของระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse System)

ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse System) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการคลังสินค้าในยุคดิจิทัล ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรได้อย่างมาก การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในคลังสินค้าจึงมีประโยชน์หลากหลายประการ ดังนี้ . . ▶ ประโยชน์ของการใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse System) . 1. เพิ่มความแม่นยำในการจัดการคลังสินค้า ระบบอัตโนมัติช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของมนุษย์ เช่น การจัดเก็บสินค้าผิดตำแหน่ง การนับสต็อกผิดพลาด หรือการจัดส่งสินค้าผิด ทำให้การดำเนินงานมีความถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า 2. ลดเวลาการดำเนินงาน ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติช่วยลดเวลาที่ใช้ในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การรับสินค้า การจัดเก็บ และการจัดส่ง ด้วยการทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถประมวลผลคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น และทำให้การบริการลูกค้ามีความรวดเร็วมากขึ้นเช่นกัน 3. ลดต้นทุนในการดำเนินงาน การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความต้องการในการใช้แรงงานมนุษย์ในการดำเนินงานคลังสินค้า ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านค่าจ้างและการฝึกอบรมพนักงาน นอกจากนี้ยังช่วยลดความต้องการในการใช้พื้นที่สำหรับจัดเก็บสินค้า ทำให้สามารถจัดการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน การใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานที่เป็นอันตราย เช่น การยกของหนักหรือการทำงานในสภาวะที่ไม่ปลอดภัย ทำให้พนักงานมีความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น และลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน . 5. เพิ่มความสามารถในการวางแผนและติดตามสินค้า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย […]

Login