Login

Register

Login

Register

Login

Register

Slide Background

New World of Supply Chain

Slide Background

New World of Supply Chain

previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

Home

We’re Your

Best Partner

เราคือผู้จัดจำน่ายสินค้า และให้บริการ สำหรับธุรกิจด้าน Supply Chain ที่ครอบคลุมครบถ้วนทุกด้านตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก (Retail), การจัดส่งสินค้า (Logistics), ขายสินค้าออนไลน์ (e-Commerce), คลังจัดเก็บสินค้า (warehousing) หรือโรงงานผลิตสินค้า (Manufacturing) ที่ยาวนานกว่า 30 ปี

มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อัปเดตอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ระบบการจัดการด้านใด หรือสุดยอดความไฮเทกใหม่ล่าสุด ก็มีมานำเสนอให้ธุรกิจของคุณ สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ประหยัดต้นทุนมากขึ้น ล้ำหน้าเหนือกว่าคู่แข่ง

เรามีสินค้ามากมาย ทั้งตัวอุปกรณ์ (Hardware) หรือซอฟต์แวร์ระบบในการจัดการ (Software) พร้อมทีมงานวางระบบ ให้คุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และสามารถวิเคราะห์พัฒนาระบบเดิมของคุณให้ดีมากขึ้น แก้ปัญหาต่างๆ ที่พบเจอให้ระบบงานไร้รอยต่อไม่มีสะดุด

Blog

ความแตกต่าง Barcode, QR Code และ RFID

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น การใช้งานระบบระบุและติดตามข้อมูลต่าง ๆ ก็ยิ่งมีความสำคัญและแพร่หลายออกไป เทคโนโลยีที่นิยมใช้ในการระบุและติดตามข้อมูลที่พบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ Barcode, QR Code, และ RFID ทั้งสามเทคโนโลยีนี้มีคุณสมบัติและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างทั้งสามเทคโนโลยี 1. Barcode (บาร์โค้ด) บาร์โค้ดเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้มานานและแพร่หลายที่สุด โดยทั่วไปจะเป็นเส้นคู่ขนานสีดำและขาว ที่มีการเรียงรหัสข้อมูลตามรูปแบบเส้นเพื่อบ่งบอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น หมายเลขสินค้า วันผลิต หรือราคาสินค้า ข้อมูลในบาร์โค้ดสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องสแกนบาร์โค้ด ซึ่งมีการใช้งานในหลากหลายธุรกิจ เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และคลังสินค้า   ข้อดี ● ราคาถูกและหาได้ง่าย ● ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในงานที่ต้องการความเร็วในการอ่านข้อมูล ข้อเสีย ● มีความจุข้อมูลจำกัด ● ต้องใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดในการอ่านข้อมูล 2. QR Code (คิวอาร์โค้ด) QR Code เป็นการพัฒนามาจากบาร์โค้ดที่เพิ่มความสามารถในการเก็บข้อมูลที่มากขึ้นและซับซ้อนกว่า QR Code มีรูปแบบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีจุดและลวดลายต่าง ๆ ที่สามารถอ่านได้จากทุกทิศทาง ทำให้มีการใช้งานที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลที่มากกว่าบาร์โค้ด   […]

บาร์โค้ด 1D กับ 2D แตกต่างกันอย่างไร

บาร์โค้ดเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการระบุข้อมูลและติดตามผลิตภัณฑ์โดยการสแกน บาร์โค้ดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ บาร์โค้ดแบบ 1D (One-Dimensional) และบาร์โค้ดแบบ 2D (Two-Dimensional) บาร์โค้ดทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของรูปแบบและการใช้งาน . . ▶ บาร์โค้ดแบบ 1D (One-Dimensional Barcode) . . ลักษณะ บาร์โค้ดแบบ 1D เป็นบาร์โค้ดที่มีลักษณะเป็นแถบเส้นที่เรียงตัวกันในแนวเดียว (แนวนอน) เส้นเหล่านี้ประกอบไปด้วยเส้นสีดำและช่องว่างสีขาวที่มีความกว้างและขนาดแตกต่างกัน ข้อมูลที่เก็บอยู่ในบาร์โค้ดแบบ 1D จะอยู่ในรูปแบบของตัวเลขหรือตัวอักษร ซึ่งอ่านได้โดยการสแกนจากซ้ายไปขวา สามารถเก็บข้อมูลได้จำกัด ประมาณ 20–25 อักขระ การใช้งาน ● สินค้าทั่วไปในร้านค้า : ใช้ในการสแกนและระบุสินค้าที่แคชเชียร์ ● การจัดการคลังสินค้า : ใช้ในการติดตามสินค้าและการตรวจนับสินค้าในคลัง ● อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ : ใช้ในการติดตามพัสดุและการขนส่งสินค้า . . ▶ บาร์โค้ดแบบ 2D (Two-Dimensional Barcode) . . […]

8 ประโยชน์ของระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse System)

ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse System) เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการคลังสินค้าในยุคดิจิทัล ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กรได้อย่างมาก การนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในคลังสินค้าจึงมีประโยชน์หลากหลายประการ ดังนี้ . . ▶ ประโยชน์ของการใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Warehouse System) . 1. เพิ่มความแม่นยำในการจัดการคลังสินค้า ระบบอัตโนมัติช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของมนุษย์ เช่น การจัดเก็บสินค้าผิดตำแหน่ง การนับสต็อกผิดพลาด หรือการจัดส่งสินค้าผิด ทำให้การดำเนินงานมีความถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า 2. ลดเวลาการดำเนินงาน ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติช่วยลดเวลาที่ใช้ในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การรับสินค้า การจัดเก็บ และการจัดส่ง ด้วยการทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถประมวลผลคำสั่งซื้อได้เร็วขึ้น และทำให้การบริการลูกค้ามีความรวดเร็วมากขึ้นเช่นกัน 3. ลดต้นทุนในการดำเนินงาน การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความต้องการในการใช้แรงงานมนุษย์ในการดำเนินงานคลังสินค้า ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านค่าจ้างและการฝึกอบรมพนักงาน นอกจากนี้ยังช่วยลดความต้องการในการใช้พื้นที่สำหรับจัดเก็บสินค้า ทำให้สามารถจัดการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน การใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานที่เป็นอันตราย เช่น การยกของหนักหรือการทำงานในสภาวะที่ไม่ปลอดภัย ทำให้พนักงานมีความปลอดภัยในการทำงานมากขึ้น และลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน . 5. เพิ่มความสามารถในการวางแผนและติดตามสินค้า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย […]

สแกนบาร์โค้ดไม่ติดเกิดจากสาเหตุอะไร

การสแกนบาร์โค้ดเป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการทำงานหลายประเภท เช่น การจัดการสินค้าในคลังสินค้า การชำระเงินในร้านค้า และการติดตามสินค้าในกระบวนการโลจิสติกส์ อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่การสแกนบาร์โค้ดอาจไม่ติดหรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวม สาเหตุหลักที่ทำให้การสแกนบาร์โค้ดไม่ติดและแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ . . ▶ สาเหตุที่ทำให้การสแกนบาร์โค้ดไม่ติด   1. บาร์โค้ดเสียหายหรือไม่ชัดเจน บาร์โค้ดที่ถูกพิมพ์ออกมาไม่ชัดเจน หรือบาร์โค้ดที่มีรอยขีดข่วน รอยเปื้อน หรือถูกฉีกขาด จะทำให้เครื่องสแกนไม่สามารถอ่านค่าได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ การพิมพ์บาร์โค้ดด้วยความละเอียดต่ำหรือการพิมพ์บนพื้นผิวที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดปัญหาด้วยเช่นกัน   2. เครื่องสแกนบาร์โค้ดมีปัญหา เครื่องสแกนที่มีเลนส์สกปรก หรืออุปกรณ์ภายในเครื่องเสื่อมสภาพ อาจทำให้การสแกนบาร์โค้ดไม่ติดได้เช่นกัน นอกจากนี้ การตั้งค่าเครื่องสแกนที่ไม่ถูกต้องก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การสแกนล้มเหลว   3. สภาพแวดล้อมการสแกนไม่เหมาะสม แสงสว่างที่มากหรือน้อยเกินไป อาจทำให้เครื่องสแกนไม่สามารถอ่านบาร์โค้ดได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ หากมีเงาสะท้อนบนพื้นผิวของบาร์โค้ด หรือการสแกนในสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสม เช่น ฝุ่นละอองหรือความชื้นสูง ก็อาจส่งผลต่อความสามารถในการสแกน   4. ปัญหาที่เกิดจากซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนอาจมีบั๊กหรือมีการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลที่ได้จากการสแกนไม่สามารถถูกถ่ายโอนหรือประมวลผลได้อย่างสมบูรณ์   5. ประเภทของบาร์โค้ดและรูปแบบการพิมพ์ การเลือกใช้ประเภทของบาร์โค้ดที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องสแกน หรือการพิมพ์บาร์โค้ดในขนาดที่เล็กเกินไป อาจทำให้เครื่องสแกนไม่สามารถอ่านบาร์โค้ดได้อย่างถูกต้อง . . […]

OGA ออกบูธงานสัมมนาหัวข้อ “โอกาสและความต้องการระบบ fulfillment เพื่อธุรกิจ SMEs” ณ โรงแรม โกลเด้น ซิตี้ จังหวัดระยอง

พาชมภาพบรรยากาศงานสัมมนาในหัวข้อ “โอกาสและความต้องการระบบ fulfillment เพื่อธุรกิจ SMEs” เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งประโยชน์ของ Master Fulfillment Optimizer (MFO) จะทำให้ช่วยเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนการจัดเก็บ ให้กับผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการทุกท่านเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ทาง OGA ณ โรงแรม โกลเด้น ซิตี้ จังหวัดระยอง . . ซึ่งทาง OGA ได้ออก Road Show ภายในงานนี้ด้วย ทางบริษัทฯ ต้องขอขอบคุณทางผู้จัดที่ได้เชิญมาเข้าร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ และขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจและให้การตอบรับเป็นอย่างดี และพบกันอีกครั้งในงาน Logimat ในวันที่ 16-18 ตุลาคม 2567 ณ ไบเทค บางนา . . —– ติดต่อ 𝐎𝐆𝐀 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 ได้ที่ Line Office : […]

ประโยชน์ของการใช้บาร์โค้ด

บาร์โค้ด (Barcode) เป็นระบบการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้ในการระบุและติดตามสินค้า โดยบาร์โค้ดมีลักษณะเป็นเส้นขาวดำซึ่งประกอบด้วยเส้นตรงและช่องว่างที่มีความกว้างและความแคบต่างกัน เรียกว่า “บาร์” และ “ช่อง” เพื่อแทนข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกกำหนดขึ้น บาร์โค้ดมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น การค้าปลีก การจัดการสินค้าคงคลัง และการขนส่ง เป็นต้น . . ➤ ประโยชน์ของการใช้บาร์โค้ด • เพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำ: การใช้บาร์โค้ดช่วยลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลและเพิ่มความเร็วในการดำเนินการ เช่น การสแกนสินค้าแทนการพิมพ์ข้อมูลด้วยมือ • ประหยัดเวลาและทรัพยากร: การใช้งานบาร์โค้ดช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตรวจนับและจัดการสินค้าคงคลัง ซึ่งช่วยประหยัดทรัพยากรและลดต้นทุน • เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ: ระบบบาร์โค้ดช่วยให้การจัดการสินค้าคงคลังและการขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถติดตามสินค้าได้แบบเรียลไทม์และลดข้อผิดพลาด ——- ติดต่อ 𝐎𝐆𝐀 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 ได้ที่ Line Office : @ogagroup โทรศัพท์ : 02-0258888 https://www.oga.co.th . #OGAinternational #OGA #โอจีเออินเตอร์เนชั่นแนล #Barcode #บาร์โค้ด #สาระน่ารู้

มาตรฐาน IP คืออะไร

มาตรฐาน IP (Ingress Protection) เป็นระบบการจัดระดับการป้องกันของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จากการเข้าถึงของฝุ่นและน้ำ โดย IP จะย่อมาจาก “Ingress Protection” หรือ “International Protection” มาตรฐานนี้ถูกกำหนดโดย International Electrotechnical Commission (IEC) เพื่อใช้วัดความสามารถในการป้องกันของอุปกรณ์จากสภาวะแวดล้อมภายนอก . . ➤ โครงสร้างของมาตรฐาน IP รหัส IP ประกอบด้วยตัวอักษรสองตัวที่ตามด้วยตัวเลขสองหลัก ตัวอย่างเช่น IP67 แต่ละตัวเลขในรหัสนี้มีความหมายที่เฉพาะเจาะจง:   • ตัวเลขหลักแรก: แสดงระดับการป้องกันของอุปกรณ์จากการเข้าถึงของวัตถุแข็ง เช่น ฝุ่น หรือการสัมผัสจากมือหรือนิ้ว   0: ไม่มีการป้องกัน 1: ป้องกันวัตถุแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 มิลลิเมตร 2: ป้องกันวัตถุแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 12.5 มิลลิเมตร 3: ป้องกันวัตถุแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 มิลลิเมตร 4: ป้องกันวัตถุแข็งที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 […]

OGA Internation จัดสัมมนาอบรมหลักสูตร Sales Strategy & Selling skill

เมื่อวันที่ 11-12 มิถุนายน 2567 ทางบริษัท OGA Internationได้มีการจัดสัมมนาอบรมหลักสูตร Sales Strategy & Selling skill ให้กับทางทีมขาย เพี่อพัฒนาทีมขาย ให้สามารถบริหารจัดการเป้าหมาย ยอดขาย อย่างเป็นระบบ มีการคิดเชิงกลยุทธ์ด้วยตัวเอง โดยได้รับเกียรติจาก คุณวุฒิชัย บุญครอง (ครูอ็อฟ) มาเป็นวิทยากรบรรยายสัมมนาในครั้งนี้ —— ติดต่อ 𝐎𝐆𝐀 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐧𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 ได้ที่ Line Office : @ogagroup โทรศัพท์ : 02-0258888 https://www.oga.co.th . #OGAinternational #OGA #โอจีเออินเตอร์เนชั่นแนล

Partners

Login